สวบ!
“อึก...!”
ผมสะดุ้งเมื่อนิ้วเรียวดันพรวดเข้ามาในช่องทางด้านหลัง
ริมฝีปากก็กัดเข้าหากันแน่นอย่างไม่ยอมรับ
ไม่ว่าใครก็ต้องขัดขืนทั้งนั้นแหละถ้าโดนถึงขนาดนี้! เจ็บสัด...เพลิงกัลป์ดันนิ้วเข้ามาทำไม?
แม้ผมจะแสร้งกร้านโลกเก่งแต่ไม่ได้หมายความว่าพอถูกกระทำจริงๆจะแสร้งไม่รู้สึกรู้สาได้หรอกนะ!
“ใครว่าจะขืนใจ?”
เสียงเรียบเอ่ยตอบกลับ
นิ้วก็กระทุ้งเข้ามาจนโดนเข้าจุดๆหนึ่งที่ทำเอาผมเผลอหลุดเสียง
“อ้ะ...หมายความว่า อื้อ...ยังไง”
ความเสียววูบแล่นทั่วสรรพางค์กายผสมเจ็บแปลบ
คนด้านบนทำเพียงมองมาด้วยแววตาเรียบสนิท แต่ผมเห็นความสะใจอยู่ในนั้น
“เพราะกูจะทำให้มึงสมยอม...หึ แรดแบบนี้แค่นิ้วเดียวก็พอมั้ง
กูคงไม่ต้องเสียเวลาเล้าโลมให้เมื่อย”
เกลียดสายตาของมันชิบหาย!
ผมกัดริมฝีปากจนห่อเลือดและไม่ยอมหลุดเสียงร้องออกมาอีกไม่ว่ามันจะทั้งควานนิ้วหรือชักเข้าชักออกให้โดนจุดเสียวก็ตาม
และที่น่าเจ็บใจคือส่วนด้านหน้าของผมมันเริ่มตั้งขึ้นทั้งที่มือหนาไม่ได้แตะแม้แต่นิด
มีอารมณ์เพราะโดนกระทุ้งทางด้านหลังนี่มันไม่ใช่เรื่องตลกนะ!
ผมเริ่มจะเข้าใจที่เพลิงกัลป์บอกว่าจะทำให้ผมสมยอมขึ้นมาแล้ว
หลักฐานคือส่วนกลางที่เริ่มปริ่มน้ำ อึก...ไม่คิดว่าตัวเองจะลามกขนาดนี้
เพิ่งรู้ซึ้งว่าร่างกายผมมันไวต่อสัมผัสจากช่องทางด้านหลังมากก็คราวนี้แหละ
ไม่ใช่ว่าผมไม่ต่อต้านนะ! แต่ตอนนี้ร่างทั้งร่างมันสั่นระริกคล้ายจะหมดแรงและมีความเสียววูบมาทดแทนอาการพยศไปเลยไง
สมองมันขาวโพลนทั้งที่ผมกัดปากไว้แน่นอย่างพยายามดึงสติอยู่
แต่ร่างกายกลับตอบรับการกระทำน่าอายนี่ได้อย่างไม่ขัดเขินเสียอย่างนั้น
“อ๊ะ!”
ผมเผลอหลุดเสียงเมื่อตนเองปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเลอะหน้าท้อง
หอบหายใจจนตัวโยนก็ยังรู้สึกเสียวซ่านอยู่เลยด้วยซ้ำ และเพลิงกัลป์ไม่รอให้ผมได้ตั้งตัวแม้แต่นิด
เขากระชากนิ้วออกคล้ายขยะแขยงแล้วดันสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วหลายเท่าเข้ามาแทน
และไม่ใช่ดันแบบเบาๆ แต่กระแทกเข้ามาจนสุดเสียอย่างนั้น!
“ฮึก...!”
ผมเบ้หน้า
มันเจ็บแบบจี๊ดไปทั้งหัวและร้าวไปทั้งร่างตั้งแต่ช่วงล่างขึ้นมายังกระดูกสันหลัง
มือทั้งสองที่ถูกล็อกไว้ก็สั่นระริกและกำผ้าปูเตียงแน่น ร่างกายก็ไม่ต่างกัน
มันสั่นเทาแบบจะตายให้ได้เลยไง ผมเคยบอกไปแล้วใช่ไหมว่าตัวเองตัวเล็ก
แล้วเพลิงกัลป์เป็นผู้ชายตัวใหญ่ แน่นอนว่าไอ้นั่นของเขามันก็ใหญ่ไปด้วย
ผมกระพริบตาเมื่อเริ่มรู้สึกได้ว่าหยดน้ำสีใสมันคลอเบ้าอยู่
ชิบ!ผมเสียครั้งแรกให้กับมันจนได้
คิดว่าผมจะร้องโวยวายหรือไง? ไม่ล่ะ...ผมจะเอาคืนมันให้กระอักเลือดเลยต่างหาก!
พอเหลือบตาขึ้นมองเพลิงกัลป์ที่นิ่งไป
ผมก็ไม่เห็นแววตาเขาชัดเจนนักเพราะม่านน้ำตามันบดบังอยู่ ทว่าผมก็ยังมีอารมณ์ข่มความเจ็บแล้วยกยิ้มร้ายในสถานการณ์ที่แย่รองมาจากแม่ตายครั้งนั้น
“มึงห่วยแตกสุดในบรรดาผู้ชายที่กูผ่านมาเลยว่ะ...เพลิงกัลป์”
ผมพ่นคำที่เจ็บแสบและหยามน้ำหน้ามันอย่างถึงที่สุดออกไป
รู้สึกได้ว่าส่วนนั้นของตัวเองรัดท่อนเนื้อร้อนผ่าวไว้แน่นคล้ายไม่ยอมให้ขยับ
แน่นอนว่ามันย่อมปรับตัวไม่ได้เพราะนี่คือครั้งแรก ความเจ็บยังคงปะทุขึ้นเสียจนอยากกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด
มันทรมานจนน้ำตาไหล แต่ไม่ได้ไหลแบบสะอึกสะอื้น
แค่ไหลเพราะเจ็บเฉยๆหรอก!
“หึ...”
พรวด!
และฉับพลันนั้นเพลิงกัลป์ก็ถอนตัวออกไปเกือบสุดและกระแทกร่างเข้ามาอย่างรุนแรง
ผมสะดุ้งเพราะจุกไปหมด สักพักความเจ็บก็จี๊ดขึ้นสมองอีกครั้ง
รู้สึกได้ถึงของเหลวจากช่องทางที่ฉีกขาด มันเป็นตัวหล่อลื่นชั้นดีที่ทำให้คนด้านบนแทรกร่างเข้าหาถี่ขึ้นกว่าเดิม
สวบๆๆ
ระหว่างเรามีเพียงความเงียบ แน่นอนว่าผมไม่ยอมหลุดเสียงร้องออกไปไม่ว่าจะเจ็บเจียนตายแค่ไหนก็ตาม
น้ำตาก็ยังหยดแหมะๆลงข้างแก้ม เชี่ยเอ้ย! ผมหันหน้าหนีซุกหมอนเพราะไม่อยากให้ใครอีกคนเห็นใบหน้านี้
“ร้องออกมา
ปากดีไม่ใช่หรือไง”
น้ำเสียงทุ้มพร่ากระซิบข้างหู
ฉับพลันนั้นมันปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ ผมใช้มือจิกหลังคอมันทันที ดวงตาก็ฉายประกายวาวโรจน์
ไม่เคยมีใครทำให้ผมหลุดได้ขนาดนี้มาก่อน! อึก...นี่มันแย่เกินไปแล้ว
“ฮึก...เซ็กซ์ห่วยๆไม่มีค่าพอให้กูร้อง...อ๊ะ!”
ผมหลุดร้องแม้จะเอาหน้าซุกหมอนหนีอยู่ก็ตาม
ใครใช้ให้มันกระแทกไปโดนจุดเสียวกันล่ะวะ รู้สึกวูบวาบจากที่เจ็บแทบตายขึ้นมาเลยไง
“อือ...ฮึก!”
และเมื่อผมหลุดไปครั้งนึง
แน่นอนว่าคนด้านบนก็ย้ำลงตรงจุดนั้นจนดิ้นพล่าน แถมมันยังล็อกคางผมแล้วบิดให้สบตากันอีกต่างหาก
“เซ็กซ์ห่วยๆแต่ทำมึงร่านขึ้นว่ะ...หึ”
นัยน์ตาสีรัตติกาลที่จ้องตรงมามีประกายของอารมณ์วาบผ่าน
ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
ถ้ามันกำลังทำแบบนี้กับผมแล้วเสือกทำตาเย็นอยู่ได้ก็ไม่ใช่คนแล้วเถอะ! รูปปั้นชัวร์
เมื่อโดนไปหนักๆเข้าผมก็เริ่มเรียนรู้ที่จะโต้ตอบกลับ
ในเมื่ออยากให้ร่านมากนักก็จะร่านให้ดู! คิดว่าแสบคนนี้จะหงอหรือไงฝันไปเถอะ!
แต่อา...เจ็บชิบ อย่างน้อยก็ยังมีความเสียวปะปนบ้างล่ะนะ
ผมเปลี่ยนจากจิกเล็บลงต้นคอเป็นเลื่อนมาลูบไล้แผงอกหนาผ่านเสื้อแทน
เพลิงกัลป์เสือกไม่ถอดชุดซะงั้น คือมึงคิดจะให้กูอับอายคนเดียวสินะ
เรื่องอะไรจะยอม! ว่าแล้วก็ปลดกระดุมมันทั้งที่โดนกระแทกจนหัวสั่นหัวคลอน
แต่ผมก็ดึงสติให้ปลดกระดุมหมดแผงได้สำเร็จในที่สุด
“ทำแรงกว่านี้ไม่ได้หรือไง...อ๊ะ ไม่มีน้ำยา?”
ผมกวนประสาทมันทางสายตา มือก็ลูบไล้แผงอกหนาประกอบคำพูด
ก็แค่อยากหยามมันให้แสดงความกรุ่นโกรธบ้างเท่านั้นเอง ให้มันเจ็บแบบที่ผมต้องเจ็บทั้งกายและใจ!
“....”
เพลิงกัลป์ไม่ได้ตอบกลับมา
แต่การที่มันเริ่มถอนตัวออกและดันเข้ามาใหม่แบบเต็มแรงและซ้ำกันอยู่อย่างนั้นก็ทำให้ผมดิ้นพล่านยิ่งกว่าเดิม
“อะ...อือ อ้า! อ๊า!”
ช...เชี่ย ไม่น่าไปท้าทายมันเลย! เวลานี้ผมไร้สติไปแล้ว
ร้องครางแบบลืมกัดปากกลั้นเสียงไว้เสียอย่างนั้น!!
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เพลิงกัลป์กระแทกร่างเน้นหนักแล้วหยุดไปพักใหญ่ๆ
ผมหอบหายใจระรัวในขณะที่มันถอนตัวออกแล้วดึงถุงยางพลางเหวี่ยงไปข้างเตียง
จากนั้นมันก็สอดส่วนนั้นเข้ามาอีกครั้ง
แล้วคิดว่าผมจะปฏิเสธ? ไม่ล่ะ...ถึงตายก็ไม่คิดยอมแพ้มันง่ายๆแน่!
เรื่องอะไรจะต้องแสดงด้านอ่อนแอแบบนั้นกัน ในเมื่อมันเข้าใจไปแล้วว่าผมผ่านอะไรมาเยอะก็ไม่จำเป็นต้องร้องขอให้หยุดทำ
แต่...มึงไม่ใส่ถุงยางแล้วหรือไง!
“ถุงยางล่ะ กูไม่เอากับคนไม่ใส่ถุงหรอกนะ”
ผมมองมันตาเขียว
แต่แทนที่ไอ้หล่อมันจะหยุด...กลับกระทุ้งร่างเข้ามาซะจนผมผวาเฮือกแทน
“หมด” เชี่ย...ถ้ากูเป็นโรคแล้วตายจะมาตามหลอกหลอนมึงคนแรก!
“ไม่เอา! ถ้าไม่ใส่ถุงยางก็อย่า...อ้ะ อ๊า!”
ผมครางลั่นอีกครั้ง เพลิงกัลป์ไม่ปล่อยให้ผมพูดอะไรอีกต่อไป
แต่มันกลับปล่อยให้ผมครางจนคอแหบคอแห้ง
ผมยกมือเกี่ยวคอและครูดแผ่นหลังกำยำจนเลือดซิบไปหลายรอย ยิ่งมันลงแรงมามากเท่าไหร่ผมก็ทำกลับไปมากเท่านั้น
คนอย่างแสบไม่ชอบเอาเปรียบใครอยู่แล้ว...
ไม่ใส่ถุงยางเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะคะ(ได้ข่าวว่าแต่งไม่ใส่มาหลายทีแล้ว) กลับไปเม้นท์ให้กำลังใจได้ที่นี่ค่ะ >>จิ้ม<<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น